UJT
UJT : เป็นอุปกรณ์ที่ทำ หน้าที่กระตุ้น (Triger) ให้กับ SCR หรือ TRIAC และยังใช้งานในวงจรผลิตความถี่ (OSC) วงจรกำเนิดสัญญาณ ฟันเลื่อย วงจรควบคุมเฟส วงจรหน่วงเวลา
- การให้ BIAS B2 ให้มีศักดิ์ (+) เมื่อเทียบกับขา B1
- มีกระแส IE ไหลหรือมี (VP = VD + VA) UJT จะทำงาน
- ค่า RBB สภาพ OFF สูง ประมาณ 5K ถึง 10 KOhm ทำให้สูญเสียกำลังงาน น้อย
- มีกระแสทริกต่ำมากเพียง 2-10 uA
RBB : INTERBASE RESISTANCE
RBB = RB1 + RB2
................( 1 )
RBB ~ 5K - 10KOhm
RB1 > RB2
RB1 : VARIABLE เปลี่ยน ค่าได้ 5K ถึง 50 โอห์ม
RB2 : FIXED คงที่
* RBB เปลี่ยนค่าตามอุณหภูมิ อุณหภูมิสูงขึ้น RBB เพิ่มขึ้น ประมาณ 1% / ํC
VBB = VB1 + VB2
................( 2 )
INTRINSIC STAN-OFF RATIO
n = อิต้า (ETA)
n = RB1 / (RB1+RB2) = RB1 / (RBB
................( 3 )
IE = 0
VA = VRB1 = nVBB
................( 4 )
VA = nVBB = (RB1 x RBB) / RBB
................( 5 )
IE = 0
VP = VD + VA
................( 6 )
VP = VD +n VBB
................( 7 )
* VP เป็น แรงดันสูงสุดที่ทำให้ IE ไหล UJT ทำงาน
POWER DISSIPATION (การสูญเสียกำลังงาน)
VP = (VBB)2 / RBB
................( 8 )
คุณสมบัติ ของ UJT
CHARACTERISTIC OF UJT
กราฟแสดงความสัมพันธ์ VE และ IE
กำหนดให้
RBB
=
ความต้านทานภายในของ UJT ระหว่างขา B2 - B1 (RBB = RB1 + RB2) ประมาณ 4K - 10Kohm
VBB
=
แรงดันตกคร่อมขา B2 และ B1
n
=
อัตราส่วนอินทรินซิก สแตนออฟ อยู่ระหว่าง (0.5 - 0.75)
VE - VP
=
เป็นแรงดันป้อนให้ขา E จน ทำให้ DIODE ทำงาน (VP = VD + VA)
VD
=
เป็นแรงดันตกคร่อม DIODE ประมาณ 0.35 - 0.7 V ใน UJT
IE
=
กระแสที่ขา E ของ UJT มีไม่เกิน 50 mA PEAK ประมาณ 2A
IE0
=
ค่ากระแสไบอัสกลับที่ขา E จาก B2 ไป E โดย B1 เปิดวงจร
VV
=
เป็นแรงดันต่ำสุด (VOLLAY POINT) ระหว่างขา E กับ B1
IV
=
คือค่ากระแสที่ไหลในขณะที่แรงดันขา E มี ค่า VV (4 - 6 mA) min ---->
IP
=
คือค่ากระแสที่ขา E ใน ขณะแรงดันมีค่า VP (0.4 - 5 uA)
การนำ UJT ไปใช้งาน
วงจร RELAXATION
R3 : LOAD
[R3 ~ 0.28 RBB / nVBB] -------> ปกนิไม่นิยมต่อ R3 ซี่งทำให้ I ไหลน้อยลง
CURRENT LIMITER
[R3 ~ 0.015 VBB RBBn]
R3 ~ 0.7 VRBB / nVBB] : R3 << R3
หาค่า R1 จากกราฟ
[VR1 + VE = VBB]
IR1 x R1 = VBB - VE
R1(max) = (VBB - VE) / IR1
(VBB - VP) / IP
Rmax < (VBB - VP) / IP
...............( * )
AT THE VOLLAY POINT IE = IV AND VE = VV
VBB = IR1R1 + VE ---------------- (1)
VBB = IVR1 + VV ---------------- (2)
[R1(min) = (VBB - VV) / IV] ---------------- ( * )
R1(min) > (VBB - VV) / IV
---------------- ( * )
VBB - VP) / IP > R1 > VBB - VV) / IV
---------------- ( * )
VP = VD + [{(RB1 / R2) VBB} / (RBB + R2)]
---------------- ( * )
VP ~ VD +n VBB
---------------- ( * )
V0 ขณะ UJT "OFF" (หาแรงดันจากการแบ่งแรงดัน DEVIDER)
V0 ขณะ UJT "ON"
[V0(max) = VR2 = (R2 x VA) / (RRB1 + R2) ]
V0(max) = [R2 x (VP - VD)] / (RRB1 + R2)
---------------- ( * )
R2(max)<= VGK(min) / IBB
---------------- ( * )
ถ้า R2 มีค่ามากไป แรงดันตกคร่อมจะทำให้ SCR "ON" ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ต้องต่ำกว่า VGK(min)
จาก RBB >> (R2 + R3) ; เมื่อ UJT "ON" RBB ลดลง IBB จะเพิ่มขึ้น
เพราะฉะนั้น
R2(max) ~ [ VGK(min) x RBB] / VBB
---------------- ( * )
EXAMPLE
IF VBB = 25 V , VGK(min) = 0.3 V , n = 0.6 , RBB = 4 KOhm จงหา R2(max) , R3
SOLOTION
[R2(max) ~ [ VGK(min) x RBB] / VBB]
[R2(max) ~ (0.3V x 4K) / 25V = 48 Ohm
R3 ~ 028 RBB / nVBB = (0.28 x 4K) / (0.6 x 25) = 74.6 Ohm
การหาค่า ความถี่ในวงจร RELAXATION OSC
จากรูปคลื่น C สามารถกำหนดได้ดังนี้
VC (CHARGE)
= VV + [(VBB - VV)(1 - et/RC)]
= VV + [(VBB - VV) -(VBB - VV)et/RC]
= VBB - (VBB - VV)et/RC
เมื่อ VC = VP , t = t1
และ [VP = VBB - (VBB - VV)et/RC]
หรือ [(VP - VBB) / (VBB - VV) = -et/RC
และ [et/RC = (VBB - (VP) / (VBB - VV)]
ทำให้ e หมด ไปโดยการใช้ loge หรือ ln
logee-t/RC = loge[(VBB - (VP) / (VBB - VV)]
[-t1/R.C] = loge[(VBB - (VP) / (VBB - VV)]
ทำ ( - ) ให้หมดไป
t1 = RC ln[(VBB - (VV) / (VBB - VP)]
---------------- ( 1 )
เวลาระหว่าง t1 ---> t2
VC(discharge)
= VPe-t/RC
VC
= VPe-t/(RB1+RB2)C
ให้ t1 เทียบเป็น t = 0
(VC = VV) , ให้ (t = t2)
VV
= VPe-t2/(RB1+RB2)C
VV / VPe
= e-t2/(RB1+RB2)C
e-t2/(RB1+RB2)C
= VV / VPe
เพราะฉนั้น ทำ e ให้หมดไปโดยใช้ loge
logee-t2/(RB1+RB2)C
= logeVV / VP
-t2
= (RB1+RB2) .C ln(VV / VP)
ทำ ( - ) ให้ หมดไป กลับเศษ ln เป็นส่วน
t2= (RB1+RB2) .C ln(VP / VV)
...............( 2 )
จาก
T = t1 + t2
และ
FOSC = 1/T = 1/t1 + t2
.............( * )
ถ้าให้
t1 >> t2 เพราะฉนั้น T ประมาณ t1
T = RC ln[(VBB - VV) / (VBB - VP)]
เมื่อ
VBB >> VV
T = RC ln[VBB / (VBB - VP)]
หารด้วย VBB
T = RC ln{ 1 / [1 - (VP / VBB)]}
จาก n = VP / VBB
เพราะฉนั้น
T ~ RC ln[1 / (1 - VBB)]
..............( 3 )
หรือ
f ~ 1 / { RC ln[ 1 / (1 - n)]}
................( 4 )
หมายเหตุ
คาบเวลา
T = RC ln[ 1 / (1 - n)]
................( 1 )
หรือ
T = 2.3 RC log10[1 / (1 - n)]
................( 2 )
ถ้า n = 0.63 จะได้ ln[1 / (1 - n)] ~ 1
T ~ RC
................( 3 )
สำหรับ UJT # 2N2646 , # 2N2647
R3 ~ 10,000 / nVBB
................( 4 )
สำหรับ UJT # 2N489 , # 2N1671A , # 2N2160
R3 ~ [0.4 RBB / n VBB] + { [1 - n) . R2] / n }
................( 5 )
ถ้ามี R3 หาค่า R2 ไปทริก SCR ได้จาก
[R2 / (R3 + RBB + R2)] x VBB <= VGT(min)
................( 6 )
การวัด UJT
- ตั้งโอห์มมิเตอร์ R x 100 วัดสองขาของ UJT คู่ใดคู่ หนึ่ง
ปรากฎว่า วัดกลับไปกลับมาขึ้นทั้งสองครั้ง
ตัวอย่าง
ขา (2 - 3) เป็นขา B2 หรือ B1 ขาที่เหลือจะเป็นขา E
o นำสาย มิเตอร์สีดำ (ไฟ +) จับขา 1 ขา E เป็นหลัก เพื่อหาขา B2 กับ B1 (Forward Bias)
o (ขา E กับ B2) ความต้านทานจะน้อยกว่าขา B1
(ขา E กับ B1) ความต้านทานจะมากกว่าขา B2
o ถ้าใช้สาย มิเตอร์สีแดง (ไฟ -) วัดขา E กับ B2 , B1 ลักษณะ Reverse Bias เข็ม จะไม่ขึ้น เหมือนกับการวัด DIODE ถ้าเข็มขึ้น แสดงว่า UJT ลีค เสีย
o ถ้าวัดทุก ขาของ UJT ไม่ขึ้นเลยแสดงว่า UJT เสีย