Donate

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

10 ข้อมูลที่ควรทราบก่อนซื้อ iPhone


ถึงแม้ว่า iPhone ของ Apple จะเป็นของเล่นใหม่ที่ใครๆ ก็อยากได้ อย่างไรก็ตามของทุกอย่างย่อมมีข้อจำกัดของมันเอง ถ้าคุณต้องการ iPhone ลองดูข้อจำกัด 10 ข้อก่อนพิจารณาซื้อหามาใช้


1) ใช่ว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงและหูฟังของ iPod ทุกชนิดจะใช้ได้กับ iPhone ถ้าอุปกรณ์นั้นๆ ไม่ได้อ้างว่าสามารถทำงานได้กับ iPhone ซึ่งคุณจะพบผลลัพธ์ที่ได้เมื่อคุณเสียบอุปกรณ์เข้าเครื่อง บางชิ้นจะทำงานได้เมื่ออยู่ในโหมด Airplane (สำหรับใช้บนเครื่องบิน) บางชิ้นใช้งานไม่ได้เลย


2) ในอเมริกา มีการขาย iPhone คู่กับบริการของ AT&T แต่ผู้ซื้อจะต้องใช้บริการของ AT&T เป็นเวลาติดต่อกันถึง 2 ปี และนั่นอาจเป็นการบังคับให้ใช้บริการรวมถึงใช้ซื้ออุปกรณ์เสริมไปในตัว



3) ไม่สามารถบันทึกวิดีโอหรือ ส่ง MMS กล้องของ iPhone มีมาพร้อมความละเอียด 2 เมกะพิกเซลซึ่งทำงานได้ดีถ้าแสงเพียงพอ แต่ไม่สามารถบันทึกวิดีโอได้ อย่างไรก็ตามนับเป็นเรื่องแปลกเพราะ iPhone เองกลับมีความสามารถในการเล่นไฟล์วิดีโอ แต่ไม่สามารถสร้างภาพยนตร์จากวิดีโอได้ และเป็นผลให้ไม่สามารถส่งข้อความภาพเคลื่อนไหว หรือ MMS ได้


4) ไม่มีโปรแกรมส่งข้อความทันใจ หรือ Instant Messaging


5) ไม่เหมาะสำหรับใช้งานธุรกิจ ผู้ที่ต้องการความสามารถอย่าง BlackBerry ไม่สามารถหาได้ใน iPod นอกจากนี้การใช้คีบอร์ดก็ยากเอาการ ไม่มีบริการพุชเมล์ยกเว้นแต่ของ Yahoo Mail ไม่สนับสนุนการใช้งานร่วมกับ Exchange แต่สามารถใช้บริการ IMAP ได้


6) ไม่สามารถทดแทน iPod ได้ 100 เปอร์เซนต์ เนื่องจากไม่มีเกม มีความจุเพียง 4GB หรือ 8GB ซึ่งพอๆ กับ iPod nano จึงไม่สามารถเทียบเท่ากับ iPod Video ที่มีความจุมากกว่า และสามารถชมวิดีโอได้

7) ไม่ใช่สมาร์ทโฟน ถึงแม้ว่า Apple ต้องการให้ผู้ใช้คิดว่าความสามารถในการพัฒนาแอพพลิเคชันแบบเปิดโดยใช้เว็บ แอพพลิเคชันจะสามารถใช้งานแอพพลิเคชันทั่วไปได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช้ คุณสามารถทำงานบางอย่างได้ด้วยเว็บแอพและ Safari ซึ่งก็ต้องมีคนพัฒนาแอพพลิเคชันที่ออกแบบมาเฉพาะของ iPhone เท่านั้น

8) การเชื่อมต่อข้อมูลช้า ถึงแม้ว่า iPhone จะสนับสนุนทั้ง EDGE และ Wi-Fi แต่ส่วนใหญ่จะใช้ EDGE มากกว่า เนื่องจาก ถ้าคุณอยู่ในรัศมีของ Wi-Fi เพื่อให้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่บ้าน แต่เมื่อคุณเดินหรือขับรถ คุณจะเข้าสู่บริการ EDGE ซึ่งทำงานได้ช้ากว่า


9) ไม่มี GPS จะเป็นการดีถ้า iPhone สามารถใช้แอพพลิเคชัน Google Maps ได้ แต่ iPhone กลับไม่มี GPS

10) ไม่สามารถเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าของคุณเองได้ แต่คงจะเพิ่มความสามารถนี้ในไม่ช้า
คุณ จะเห็นว่า ถึงแม้ว่า iPhone จะเป็นของใหม่ที่ใครก็ปรารถนาแต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนซื้อหามาใช้ และถ้าข้อจำกัดเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการ ก็อาจจะรอเวอร์ชันต่อไปที่สมบูรณ์กว่า

Apple iPhone 3G




เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วกับ Apple iPhone 3G ครับ กะว่าจะเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็หลับซะก่อน ตื่นเช้ามาก็เลยโดดงาน รีบมาอัพบล็อกเป็นอันดับแรก เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนก็กำลังตามเรื่องนี้และอยากรู้กันว่า .. มีอะไรใหม่ใน iPhone 3G บ้าง

เริ่มกันตั้งแต่รายละเอียดของตัวเครื่องก่อนก็แล้วกันครับ

* หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว
* ความจุ 8 กิกะไบต์ และ 16 กิกะไบต์
* หน้าจอแบบ Multitouch
* ระบบโทรศัพท์ UMTS/HSDPA (850, 1900, 2100 MHz) ; GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz)
* Wi-Fi 802.11b/g
* Bluetooth 2.0 + EDR
* Assisted-GPS
* กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล
* ขนาดตัวเครื่อง 115.5 x 62.1 x 12.3 มิลลิเมตร
* น้ำหนัก 133 กรัม

ต้องบอกว่าคราวนี้แอปเปิ้ลไม่ค่อยได้กั๊กคุณสมบัติของตัวเครื่องอย่างไอ โฟนเวอร์ชันแรก อาจจะได้บทเรียนอะไรมาหลายๆ อย่างหลังจากยอดขายในยุโรปและอีกหลายประเทศไม่ได้พุ่งกระฉูดตามที่คาด


ถามผมตอนนี้ ต้องบอกว่า ไอโฟนมีเกือบทุกอย่างที่ผมต้องการครับ จอแบบมัลติทัช บลูทูธ จีพีเอส ไว-ไฟ และ แบตเตอรีตัวใหม่ก็ใช้งานได้นานกว่า

กล้องดิจิตอลที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลนั้น ความจริงน่าจะได้มากกว่านี้ บังเอิญใช้ N82 จนชินมือไปแล้วกับกล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชซีนอน พอไปจับกล้องไอโฟนก็เลยไม่โดนใจเท่าไร (ทั้งที่เมื่อก่อนก็ว่ากล้องของไอโฟนนั้นก็โอเคแล้ว)


เรื่องขนาดของตัวเครื่องนี่ สำหรับผมยังว่ามันกว้างไปนิดครับ โดยส่วนตัวไม่ค่อยถนัดพกอะไรที่มันกว้างๆ เพราะชอบเอามือถือใส่กระเป๋ากางเกงข้างหลัง ถ้าซื้อมาใช้จริงก็คงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันพอสมควร

อีกอย่างที่ค่อนข้างน่าตื่นเต้นในการเปิดตัวครั้งนี้ก็คือ เรื่องของแอพพลิเคชันที่มีมาโชว์เยอะทีเดียวครับ อย่างเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับเขียนบล็อกผ่านมือถือจากค่าย SixApart ; เกม Super Monkey Ball จากค่าย Sega ; โปรแกรมซื้อขายสินค้าบน eBay ที่อินเทอร์เฟสออกแบบมาเพื่อ iPhone โดยเฉพาะ และยังมีแอพพลิเคชันด้านการแพทย์ ด้านข่าวสาร ด้านแสดงผลการแข่งเบสบอล และก็ใช้งาน Push Mail ร่วมกับ Microsoft Exchange ได้ เรียกว่าคึกคักกันพอสมควรทีเดียว ภายใต้ซอฟต์แวร์อัพเดตใหม่ที่เรียกว่า iPhone 2.0

สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย โน่นครับวันที่ 11 กรกฎาคม .. สงสัยคงจะต้องมีคนไปต่อแถวกันยาวเหยียดอีกเหมือนเดิม
ราคานั้นวางไว้ที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,600 บาท) สำหรับรุ่น 8 กิกะไบต์ และ 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9,900 บาท) สำหรับรุ่น 16 กิกะไบต์ ซึ่งรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำ

เห็นราคาแล้วก็กลัวครับ .. กลัวจะอดใจไม่ไหว!!

เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกัน 22 ประเทศ และภายในปีนี้จะครอบคลุมทั่วโลก 70 ประเทศ .. ไม่มีประเทศไทยครับ ม่ายยยมี!!!

มีปัญหาอย่างเดียวคือ จะหิ้วกันเข้ามาได้เกร่อเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า? เพราะงานนี้แอปเปิ้ลคงบังคับจับเซ็นสัญญาทาสกันตั้งแต่หน้าร้าน ไม่ได้ปล่อยให้ซื้อเครื่องเปล่าได้เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ผมก็ยังคงเชื่อมั่นในฝีมือของบรรดากองทัพมดทั้งหลาย ว่าคงไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน

ช่วงนี้ทางมาบุญครองคงลำบาก นอกจากจะมีเวอร์ชันใหม่ออกมาแล้ว ราคายังถูกกว่าเดิมอีกเท่าตัว ใครปล่อยของไม่ทันก็เน่ากันไปโดยปริยาย แต่เชื่อเถอะครับว่า เดี๋ยวถึงตอนนั้นบรรดาคนขายทั้งหน้าร้านและก็บนเน็ต จะต้องออกมาบอกว่า

ไอโฟนรุ่นใหม่ยังไม่เสถียร ยังไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็หลอกขายรุ่นเก่าออกไปก่อน .. ใครตกเป็นเหยื่อก็ซวยไป

ฝากบอกต่อๆ กัน .. อยากใช้ Apple iPhone รบกวนรอๆๆๆ กันไปอีกนิด สิงหาคมค่อยตัดสินใจซื้อก็ยังไม่สาย!

ส่วนคนที่ลำบากที่สุด น่าจะเป็นบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ .. เจอราคาแบบนี้เข้าไป มีกระอักแน่นอน ไอโฟนรุ่นเดียว แบบเดียว ดีไซน์เดียว ดันขายได้จนเป็นอันดับ 3 ของโลก ทำให้ต้นทุนในการผลิตมันถูกกว่าเห็นๆ งานนี้ผมว่าต้องมีการปรับตัวกันยกใหญ่ในวงการโทรศัพท์มือถือ .. รอดูอย่างใจจดใจจ่อ!!

ดูโฆษณากันได้ที่ http://www.apple.com/iphone/gallery/ads/hallway/

...